งานฮักแพง เบิ่งแงงฮูปแต้มดงบัง และงานบุญผะเหวด ฟังเทศน์มหาชาติ ประจำปี 2562

งานฮักแพง เบิ่งแงงฮูปแต้มดงบัง และงานบุญผะเหวด ฟังเทศน์มหาชาติ ประจำปี 2562 ภายใต้การดำเนินกิจกรรมโครงการหนึ่งคณะหนึ่งศิลปวัฒนธรรม “สานทุนวัฒนธรรม นำเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ผ่านฮูปแต้มสารคาม ระยะที่ 4”

เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2562 ณ วัดป่าเลไลย์ ตำบลดงบัง อำภอนาดูน จังหวัดมหาสารคาม วิทยาลัยการเมืองการปกครอง มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ร่วมกับ องค์การบริหารส่วนตำบลดงบัง วัดป่าเรไรย์ วัดโพธาราม โดยเจ้าอาวาส โรงเรียนดงบังพิสัยนวการนุสรณ์ โรงเรียนชุมชนบ้านดงบัง โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลดงบัง และศูนย์เรียนรู้ฮูปแต้มและภูมิปัญาดงบัง อำเภอนาดูน จังหวัดมหาสารคาม ร่วมจัดงานฮักแพง เบิ่งแงงฮูปแต้มดงบัง และงานบุญผะเหวด ฟังเทศน์มหาชาติ ประจำปี 2562 ภายใต้การดำเนินกิจกรรมโครงการหนึ่งคณะหนึ่งศิลปวัฒนธรรม “สานทุนวัฒนธรรม นำเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ผ่านฮูปแต้มสารคาม ระยะที่ 4” ขึ้น ในการนี้ได้รับเกียรติจาก นายนที มนตริวัต รองผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม เป็นประธานในพิธีเปิด โดย นายรณชิต พุทธลานายอำเภอนาดูน กล่าวต้อนรับผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม จากนั้นผู้ช่วยศาสตราจารย์เชิงชาญ จงสมชัย คณบดีวิทยาลัยการเมืองการปกครอง กล่าวรายงานความร่วมมือฯ ในการดำเนินโครงการบริการวิชาการ โครงการหนึ่งคณะหนึ่งศิลปวัฒนธรรมและโครงการ หนึ่งหลักสูตรหนึ่งชุมชน และ นายสังคม วงษ์นอก นายกองค์การบริหารส่วนตำบอลดงบัง ประธานกรรมการจัดงานกล่าว รายงานการจัดโครงการฯ

ฮักแพง เบิ่งแงงฮูปแต้มดงบัง จัดขึ้นในระหว่างวันที่ 6-8 กุมภาพันธ์ 2562 โดยมีกิจกรรมดังนี้

-          วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2562 วันเตรียม มีพิธีพิธีแห่ดอกไม้ พิธีอัญเชิญพระอุปคุตขึ้นประดิษฐสถาน ณ บริเวณพิธีสระหนองบัว พิธีเจริญพระพุทธมนต์ และเทศน์มาลัยหมื่น มาลัยแสน

-          วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2562 มีกิจกรรมการประกวดวาดภาพระบายสีฮูปแต้ม การทำผลิตภัณฑ์ของที่ระลึกฮูปแต้ม พิธีบวงสรวงฮูปแต้ม ชมขบวนแห่งานฮูปแต้ม พิธีเปิดงานโดยท่านรองผู้ว่าราชาการจังหวัดมหาสารคาม การแสดงชุด “ฟ้อนรำออนซอนอิสาน” จากโรงเรียนชุมชนบ้านดงบัง การแสดงชุด “ฟ้อนออนซอนฮูปแต้ม” จากโรงเรียนดงบังพิสัยนวการนุสรณ์ ฟ้อนเปิดงานจากกลุ่มพัฒนาสตรีตำบลดงบัง กิจกรรมการแสดงบนเวทีสืบสานศิลปวัฒนธรรมวงดนตรีนักเรียนโรงเรียนดงบังพิสัยนวการนุสรณ์ และประกวดร้องเพลง และการศิลปวัฒนธรรมการแสดงหุ่นกระติบ หนังประโมทัย จากโรงเรียนดงบังพิสัยนวการนุสรณ์ และหมอลำพื้นบ้าน

-          วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2562 การแห่ข้าวพันก้อน เทศน์สังกาส/เทศน์คาถาพัน เทศน์มหาชาติ / เทศน์ฉลอง แห่กัณฑ์หลอน กัณฑ์จอบ และพิธีถวายต้นดอกเงิน ทอดผ้าป่าเพื่อสมทบกองทุนอนุรักษ์และพัฒนาฮูปแต้ม

โครงการหนึ่งคณะหนึ่งศิลปวัฒนธรรม ภายใต้ชื่อ “สานทุนวัฒนธรรม นำเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ผ่านฮูปแต้มสารคาม ระยะที่ 4” ซึ่งเป็นเป็นโครงการประเภทการทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม ตามนโยบายของสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษาแห่งชาติ และมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ที่ต้องการให้นิสิตและมหาวิทยาลัยเป็นที่พึงของสังคมและชุมชน สมดังปรัชญาของมหาวิทยาลัยที่ว่า “ผู้มีปัญญา พึงเป็นอยู่เพื่อมหาชน”

โครงการนี้ได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ปีงบประมาณ 2559 โดยใช้กรอบแนวคิดที่คณะทำงานให้ชื่อว่า “SIM Model” ซึ่งพ้องเสียงกับ “สิม” หรือโบสถ์อีสาน อันมีฮูปแต้มซึ่งเป็นทุนวัฒนธรรมล้ำค่าของชาวตำบลดงบัง โดย Sim Model โดยประกอบด้วยหลักคิด 3 ประการ ได้แก่

S - Sustaianable Developmet หมายถึง การพัฒนาการอย่างยั่งยืน

I – I-San Local Wisdom อันหมายถึง ภูมิปัญญาและทุนทางวัฒนธรรมของคนอีสาน

M – Management หมายถึง การบริหารจัดการ ซึ่งในที่นี้เป็นการบริหารจัดการโดยการมีส่วนร่วมของคนในชุมชน เพื่อให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน ทั้งในเชิงกระบวนการและผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ วิทยาลัยการเมืองฯ จึงไว้นำแนวคิดเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์ (Creative Economy) มาใช้ในการดำเนินกิจกรรมต่างๆ ด้วย

ตลอดระยะเวลา 3 ปีเศษ ที่ ได้ดำเนินการมานี้ วิทยาลัยการเมืองฯ ได้ร่วมกับเครือข่ายและชาวตำบลดงบัง จัดกิจกรรมมากมาย อาทิ การร่วมกับชุมชนจัดทำประวัติศาสตร์บอกเล่าฉบับชุมชน การนำเยาวชนมาอบรมยุวมัคคุเทศก์ งานบุญฮักแพงเบิ่งแงงฮูปแต้ม และเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมาได้ร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนสร้างเสริมสุขภาพ หรือ สสส. จัดตั้ง “ศูนย์เรียนรู้ฮูปแต้มและภูมิปัญญาดงบัง” ขึ้น

และในวันนี้พลังของชาวตำบลดงบัง ตำบลเล็กได้แสดงออกมาให้ท่านได้ประจักษ์ จากความเกาะเกี่ยว

วิทยาลัยการเมืองการปกครอง มีปณิธาน คือ “รัฐศาสตร์ฐานราก เพื่อรากฐานของสังคม “ ดังนั้น การดำเนินกิจกรรมโครงการนี้ จึงได้อาศัยองค์ความรู้ทางรัฐศาสตร์และรัฐประศาสตร์ เพื่อเป็นฐานรากสำคัญ และร่วมกับชาวตำบลดงบัง เพื่อออกแบบการบริหารจัดการชุมชนที่มีทางทุนทางวัฒนธรรมที่สำคัญ คือ สิมและฮูปแต้ม ให้ชุมชนเกิด “ความตระหนัก” ถึงคุณค่าของของตนเอง อันจะนำมาซึ่ง “ความศรัทธาและความภาคภูมิใจ” ในถิ่นฐานบ้านเกิด และหวังว่าเป็นอย่างยิ่งว่าจะเป็นฐานรากที่ดีของสังคมไทย ต่อไป